การเลือกใช้อุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมกับผ้าแต่ละประเภท

การเลือกใช้อุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมกับผ้าแต่ละประเภท
การเลือกใช้อุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมกับผ้าแต่ละประเภท

ในการดูแลเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มนั้น อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้อ่านหลายๆท่านได้มีความคุ้นชิน และต้องมีการทำอย่างสม่ำเสมอ แต่อาจจะมีปัจจัยสำคัญในการซักผ้าที่หลายๆท่านยังไม่ทราบ ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นสามารถทำให้การดูแลและซักผ้ามีความสะอาดและมีคุณภาพในการซักผ้ามากยิ่งขึ้น 

โดยปัจจัยที่ได้เกริ่นไว้นั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิของน้ำ และประเภทของผ้าในการซักแต่ละครั้ง โดยข้อมูลที่ควรทราบนั้นจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามได้ในส่วนถัดไปด้านล่างนี้ 

ควรซักผ้าด้วยน้ำร้อน น้ำอุ่น หรือ น้ำเย็นดี ?

ควรซักผ้าด้วยน้ำร้อน น้ำอุ่น หรือ น้ำเย็นดี
ควรซักผ้าด้วยน้ำร้อน น้ำอุ่น หรือ น้ำเย็นดี

เมื่อการซักผ้านั้นมีปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดความสะอาดที่มากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถทำให้การซักผ้าในแต่ละครั้ง สามารถถนอมและยืดอายุการใช้งานของเสื้อได้ จึงจำเป็นต้องมีการแบ่งช่วงอุณหภูมิก่อนการซักผ้าในแต่ละครั้ง โดยการแบ่งช่วงอุณหภูมิในการซักผ้านั้น สามารถจำแนกได้เป็นสามช่วง ดังข้อมูลด้านล่าง

  • การซักด้วย น้ำร้อน คือ การซักผ้าที่อุณหภูมิประมาณ 55 องศาเซลเซียส
  • การซักด้วย น้ำอุ่น  คือ การซักผ้าที่อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส
  • การซักด้วย น้ำเย็น คือ การซักผ้าที่อุณหภูมิปกติ หรืออุณหภูมิของน้ำที่ต่ำกว่า 40 องศาเซลเซียส

การเลือกอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าที่ซัก มีประโยชน์อย่างไร

การเลือกอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าที่ซัก
การเลือกอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าที่ซัก

1.สามารถสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการซักผ้า

เสื้อผ้าแต่ละชนิด ถูกออกแบบมาสำหรับกิจกรรมและการใช้งานที่มีความแตกต่างกัน เช่นผ้าปูที่นอน หรือท็อปเปอร์ ซึ่งมีความหนา และถูกใช้งานในเวลาที่ยาวนาน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก รวมถึงแบคทีเรียได้ ดังนั้นการเลือกใช้น้ำร้อนในการซักผ้า จะทำให้การซักผ้าประเภทเหล่านี้นั้นมีประสิทธิภาพและสะอาด สามารถกำจัดสิ่งสกปรกฝังลึกได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็จะทำให้เห็นได้ว่า เสื้อผ้าแต่ละประเภทจำเป็นที่จะต้องมีการเลือกใช้อุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อคุณภาพในการซักควบคู่กับการทำงานของเครื่องซักผ้า

การสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการซักผ้า
การสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการซักผ้า

2.ขจัดสิ่งสกปรกฝังลึกได้ในผ้าที่มีความหนา

เมื่อเกิดการหมักหมมในผ้าที่ถูกใช้งานในเวลาที่ยาวนาน ประสิทธิภาพของการซักผ้าอาจจะไม่สามารถชะล้างสิ่งสกปรกที่มีการฝังลึกได้ หากปราศจากการเลือกใช้อุณหภูมิที่สูงในการซักผ้า ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่า การเลือกช่วงอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการซักผ้า จะสามารถทำให้เสื้อผ้านั้นมีความสะอาด และกำจัดสิ่งสกปรกได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด 

การขจัดสิ่งสกปรกฝังลึกได้ในผ้าที่มีความหนา
การขจัดสิ่งสกปรกฝังลึกได้ในผ้าที่มีความหนา

3.ถนอมเนื้อผ้าและยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า

เนื้อผ้าของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มบางชนิด อาจจะมีความบอบบาง และจำเป็นที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งหากผู้ที่ทำการซักผ้า ใช้น้ำที่มีอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมกับการซัก อาจจะทำให้เกิดการทำลายเนื้อผ้ารวมถึงทำให้เกิดปัญหาสีตก เนื้อผ้ามีการหดเล็กลง ดังนั้นการเลือกอุณหภูมิให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สามารถถนอมเนื้อผ้าและยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า

การซักผ้าให้สะอาด
การซักผ้าให้สะอาด

ก่อนซักต้องรู้ก่อนว่าผ้าที่เราต้องการซักนั้น เหมาะกับอุณหภูมิใดบ้าง

การให้ความสำคัญกับช่วงอุณหภูมิน้ำในการซักผ้า อาจจะดูเป็นเรื่องใหม่ และหลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบความสำคัญของการซักผ้าในลักษณะนี้ แต่ความเป็นจริงนั้น ทุกๆครั้งที่จะทำการซักผ้า ควรจะมีการแบ่งช่วงอุณหภูมิของน้ำสำหรับเนื้อผ้าต่างๆ เพราะว่านอกจากจะเป็นการยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าในแต่ละประเภทได้แล้ว ยังสามารถช่วยทำให้การซักผ้าแต่ละครั้งทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการทำงานของเครื่องซักผ้าได้เป็นอย่างดี

เนื้อผ้าแต่ละชนิดนั้นมีลักษณะของเส้นใยที่ต่างกันกล่าวคือ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มบางชนิด อาจจะมีความหนา หรืออาจจะถูกใช้ในกิจกรรมที่ทำให้เกิดความสกปรกฝังลึก ซึ่งจะต้องใช้น้ำในอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติ เพื่อการชะล้างสิ่งสกปรกที่ซ่อนอยู่ และในทางเดียวกัน เสื้อผ้าบางชนิด อาจจะมีความบอบบาง และมีรายละเอียดของตัวเนื้อผ้าที่ต้องใช้น้ำอุณหภูมิปกติเพื่อถนอมเนื้อผ้า

ใส่ใจในการซักผ้า
ใส่ใจในการซักผ้า

1. ผ้าที่สามารถซักด้วยน้ำร้อน

ผ้าที่สามารถทนทานต่อความร้อนได้ เช่น ผ้าห่ม ท็อปเปอร์

จากประเภทผ้าที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าเนื้อผ้าจะมีความหนา และถูกใช้ในกิจกรรมที่อาจเป็นแหล่งสะสมความสกปรกฝังลึก รวมถึงมีการใช้งานในเวลาที่ยาวนานก่อนการซักผ้า ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้ความร้อนของน้ำในการชะล้างคราบ หรือสิ่งไม่พึงประสงค์ต่างๆ โดยแม้การใช้น้ำร้อนซักผ้าจะสามารถกำจัดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องระวังเรื่องการแช่ผ้าทิ้งไว้ในเวลาที่นานเกินไป 

ซักผ้าน้ำอะไรดี
ซักผ้าน้ำอะไรดี

2. ผ้าที่สามารถซักด้วยน้ำอุ่น

ผ้าสังเคราะห์ หรือผ้าประเภทยีนส์ ผ้าขนหนู

ถึงแม้ว่าการเลือกใช้น้ำอุ่นในการซักผ้า จะช่วยคงความอ่อนนุ่มของผ้าได้ดีกว่าน้ำเย็น แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็ต้องระวังการซักผ้าในปริมาณที่มาก รวมถึงการซักผ้าที่มีสีสันเข้มในเวลานาน เพราะอาจจะทำลายเนื้อผ้า รวมถึงทำให้เกิดปัญหาสีตกไปถึงผ้าชิ้นอื่นๆได้

การซักผ้าน้ำอุ่น
การซักผ้าน้ำอุ่น

3. ผ้าที่สามารถซักด้วยน้ำเย็น

ผ้าที่มีความบอบบางและลักษณะเฉพาะดังเช่น ผ้าไหม ผ้าไนล่อน

การซักผ้าน้ำปกติ
การซักผ้าน้ำปกติ

ผ้าที่ได้ทำการกล่าวไปนั้น จะมีลักษณะพื้นผิวที่บอบบาง และถูกออกแบบมาให้ใช้งานอย่างระมัดระวังอย่างมาก จึงเป็นที่มาในการต้องเลือกใช้อุณหภูมิของน้ำที่มีความเย็นปกติ เพื่อสามารถถนอมเนื้อผ้าได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นข้อดีที่จะทำใหัการซักผ้า ลดโอกาสเกิดการหดตัวของผ้า

หรือเกิดปัญหาสีตกเนื่องจากใช้น้ำอุณหภูมิสูง และต้องมีการใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสูงควบคู่กันไป เพราะการซักผ้าด้วยน้ำเย็น อาจจะไม่สามารถทำความสะอาดคราบฝังลึกได้เท่ากับการใช้น้ำอุ่น หรือน้ำร้อน

ข้อดีและข้อเสียของน้ำร้อนและน้ำเย็น

เมื่อได้ทราบการเลือกใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการซักผ้าแต่ละชนิดแล้ว ส่วนนี้ของบทความจะเป็นการสรุป ข้อดีและข้อควรระวังในการเลือกใช้อุณหภูมิกับเนื้อผ้าโดยย่อ เพื่อสามารถทำให้ผู้อ่านนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างดีที่สุด

การซักน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น

  • ข้อดี สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกฝังลึกในการซักผ้าได้
  • ข้อเสีย หากเลือกเนื้อผ้าไม่เหมาะกับอุณหภูมิอาจจะเป็นการทำลายเนื้อผ้า
ข้อควรระวังในการซักผ้า
ข้อควรระวังในการซักผ้า

การซักด้วยน้ำเย็น

  • ข้อดี สามารถถนอมและยืดอายุการใช้งานของผ้า
  • ข้อเสีย หากใช้น้ำยาซักผ้าและผงซักฟอกที่ไม่มีคุณภาพในการซักผ้า อาจจะทำให้เสื้อผ้านั้นมีกลิ่นเหม็นอับ
ซักผ้าต้องดูอย่างละเอียด
ซักผ้าต้องดูอย่างละเอียด

สรุป

เคล็คลับวิธีซักผ้าให้หอมติดทนทั้งวัน
เคล็คลับวิธีซักผ้าให้หอมติดทนทั้งวัน


การดูแลเสื้อผ้าแต่ละชนิดนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญ และใส่ใจ ตั้งแต่การเลือกอุณหภูมิที่จะใช้ในการซักผ้าแต่ละครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นการยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี ยังสามารถช่วยทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการซักผ้า ควบคู่กับการทำงานของเครื่องซักผ้า โดยอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นก่อนการซักผ้า

แต่หากสามารถปฏิบัติและให้ความสำคัญกับการเลือกอุณหภูมิที่เหมาะสมแล้ว จะทำให้เสื้อผ้าของทุกๆท่านนั้น มีความสะอาด มีความสวยงาม สร้างความมั่นใจ และสามารถใช้งานในการทำกิจกรรมต่างๆได้เป็นอย่างดี

Related Post
  • ทำไมแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักถึงต้องใช้เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม

ทำไมแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักถึงต้องใช้เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม

ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการหลายคนเริ่มหันมาสนใจและลงทุนในธุรกิจนี้มากขึ้น ซึ่งหัวใจสำคัญในการเปิดร้านสะดวกซัก [...]

  • บริการหลังการขาย ร้านสะดวกซัก ซักผ้าหยอดเหรียญ 24WASH

เลือกแบรนด์ซักผ้าหยอดเหรียญอย่างไรให้ธุรกิจยั่งยืน? บริการหลังการขายคือคำตอบ

การเลือกแบรนด์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมีความสำคัญต่อการทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน นักลงทุนจึงไม่ควรพิจารณาแค่ราคา หรือประสิทธิภาพของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญเท่านั้น [...]

  • ทำไมแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักถึงต้องใช้เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม

ทำไมแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักถึงต้องใช้เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม

ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการหลายคนเริ่มหันมาสนใจและลงทุนในธุรกิจนี้มากขึ้น ซึ่งหัวใจสำคัญในการเปิดร้านสะดวกซัก [...]