Passive Income คืออะไร? พร้อมไอเดียลงทุนที่เริ่มได้ทันที

Passive Income คือ รายได้ที่เข้ามาแบบต่อเนื่องโดยไม่ต้องทำงานหนักทุกวัน ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคนที่อยากมีชีวิตที่มั่นคงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มองหารายได้เสริม หรือนักลงทุนที่อยากหา Passive Income เพิ่มเติม การเข้าใจหลักการลงทุน Passive Income ที่ถูกต้องจะช่วยให้สร้างผลตอบแทนได้อย่างยั่งยืน โดยในบทความนี้จะพาไปสำรวจ 6 แนวทางสร้าง Passive Income ที่ทำได้จริงเพื่อก้าวไปสู่ชีวิตที่มีอิสรภาพทางการเงินอย่างที่ต้องการ

Passive Income คือการลงทุนที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน

Passive Income คือรายได้ที่เกิดจากการลงทุนในช่วงเริ่มต้น แล้วสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องทำงานทุกวัน โดยตัวอย่างของ Passive Income มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในร้านซักผ้าแบบหยอดเหรียญ หรือการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งถ้าวางแผนอย่างรอบคอบ แม้แต่การสร้าง Passive Income เดือนละ 10000 บาท ก็สามารถเป็นจุดเริ่มต้นสู่อิสรภาพทางการเงินได้ เพราะสามารถนำไปต่อยอดเพื่อเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้นได้เรื่อย ๆ

Passive Income ต่างจาก Active Income อย่างไร

Active Income คือรายได้ที่ต้องทำงานแลกมาโดยตรง เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง หรือรายได้จากธุรกิจ ซึ่งจะหายไปเมื่อหยุดทำงาน ขณะที่ Passive Income คือรายได้ที่ยังมีเข้ามาแม้ไม่ทำงาน ตัวอย่างเช่น รายได้จากแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าที่มีระบบจัดการให้ หรือการลงทุนร้านสะดวกซักที่ไม่ต้องไปทำงานที่ร้านทุกวัน โดยความแตกต่างหลักอยู่ที่ Active Income ต้องแลกด้วยเวลาและแรงงาน ส่วนรายได้แบบ Passive Income คือสิ่งที่เกิดจากการลงทุนที่ทำเงินเป็นประจำได้

สูตรการคำนวณรายได้ของ Passive Income คืออะไร

การสร้าง Passive Income คือการพัฒนาแหล่งรายได้ที่ไม่ต้องทำงานประจำ โดยวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น อสังหา หรือธุรกิจน่าสนใจบางประเภท อย่างแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า ลงทุนเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาด นอกจากนี้ การพัฒนาอาชีพเสริมบางอย่างก็สามารถต่อยอดเป็น Passive Income ได้เช่นกัน

รวม 6 การสร้าง Passive Income คืออะไรบ้าง? ทางลัดสู่ความรวยแบบไม่ต้องทำงานหนัก

Passive Income คือรายได้ที่ไม่ต้องลงแรงตลอดเวลา แต่ยังสร้างเงินให้เกิดขึ้นได้ โดยในหัวข้อนี้รวม 6 การสร้าง Passive Income ที่น่าสนใจ ซึ่งมีดังนี้

1. ฝากเงินในธนาคาร

วิธีสร้าง Passive Income ที่ง่ายที่สุดคือการฝากเงินในธนาคาร เพียงแค่เปิดบัญชีเงินฝากประจำ หรือบัญชีออมทรัพย์พิเศษที่ให้ดอกเบี้ยสูง ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยให้เป็นรายเดือนหรือรายปีตามจำนวนเงินที่ฝาก ยิ่งฝากเงินมากก็จะได้รับ Passive Income มากขึ้น เช่น ถ้าฝากเงิน 1 ล้านบาทในบัญชีที่ให้ดอกเบี้ย 2% ต่อปี จะได้รับเงิน 20,000 บาทต่อปี วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาวิธีลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำและไม่ต้องการจัดการอะไรให้ยุ่งยาก

2. ซื้อประกันออมทรัพย์ / ประกันสะสมทรัพย์

การซื้อประกันออมทรัพย์ หรือประกันสะสมทรัพย์ เป็นการวางแผนการเงินระยะยาวที่ผสมผสานระหว่างการออมเงินและการคุ้มครองชีวิต โดยผู้ซื้อจะต้องจ่ายเบี้ยประกันตามแผนที่เลือกไว้ เช่น จ่ายปีละ 20,000 บาท เป็นเวลา 10 ปี และจะได้รับเงินคืนในระหว่างสัญญา พร้อมเงินก้อนใหญ่เมื่อครบกำหนดสัญญา โดยจุดเด่นของวิธีนี้คือความมั่นคง ได้รับความคุ้มครองชีวิต และมีผลตอบแทนแน่นอนในอนาคต เป็น Passive Income ที่มีความเสี่ยงต่ำและเหมาะสำหรับคนที่วางแผนสำหรับระยะยาว

3. ลงทุนในตราสารหนี้ / กองทุนรวมตราสารหนี้

การลงทุนในตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมตราสารหนี้เป็นเครื่องมือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยคงที่ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้เอกชน ซึ่งให้ดอกเบี้ยประมาณ 2-5% ต่อปี โดยสามารถเริ่มลงทุนได้ตั้งแต่หลักพันบาทขึ้นไป ตัวอย่างเช่น ลงทุน 1 ล้านบาทในกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4% ต่อปี จะมีรายได้ Passive Income คือ 3,300 บาทต่อเดือน การลงทุนรูปแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอและรับความเสี่ยงได้น้อย มีความผันผวนต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นโดยตรง

4. ลงทุนอสังหาริมทรัพย์

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด หรือห้องเช่า เพื่อปล่อยให้เช่าและสร้างรายได้ประจำทุกเดือน วิธีการเริ่มต้นคือเลือกทำเลที่มีความต้องการเช่าสูง เช่น ใกล้มหาวิทยาลัย ตึกออฟฟิศ หรือระบบขนส่งสาธารณะ จากนั้นลงทุนซื้ออสังหาฯ แล้วตกแต่งให้พร้อมก่อนประกาศให้เช่า โดยถ้าลงทุนในคอนโดราคาประมาณ 2–3 ล้านบาท อาจปล่อยเช่าได้เดือนละ 8,000–15,000 บาท ทั้งนี้ รายได้จะขึ้นอยู่กับทำเล ขนาดห้อง และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าส่วนกลาง จึงควรคำนวณต้นทุนให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

5. ซื้อหุ้น / กองทุนรวมหุ้น

การซื้อหุ้นหรือกองทุนรวมหุ้น เป็นการลงทุนในธุรกิจผ่านตลาดหลักทรัพย์ เพื่อรับผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลและมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้น โดยต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์ก่อน แล้วเลือกหุ้นหรือกองทุนที่มีผลประกอบการมั่นคง ซึ่งถ้าลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลปีละ 4–6% เช่น ลงทุน 500,000 บาท ซึ่งโอกาสที่ได้รับ Passive Income คือเดือนละประมาณ 1,600–2,500 บาท โดยไม่ต้องซื้อขายบ่อย เพียงติดตามข่าวสารและผลประกอบการของบริษัทที่ลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อโอกาสเติบโตในอนาคต

6. ลงทุนเปิดแฟรนไชน์ธุรกิจเสือนอนกิน

อีกหนึ่งในการสร้างรายได้ Passive Income คือ การลงทุนเปิดแฟรนไชส์ธุรกิจเสือนอนกิน เป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีระบบการจัดการชัดเจนและมีทีมงานดำเนินการแทนเจ้าของ ทำให้ไม่ต้องลงแรงเองทุกวัน โดยต้องศึกษาข้อมูลแฟรนไชส์ที่สนใจ ประเมินเงินลงทุนและผลตอบแทน รวมถึงหาทำเลที่เหมาะสม ซึ่งผลตอบแทนส่วนใหญ่อยู่ที่ 8-15% ต่อปี แม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน แต่ในช่วงแรกเจ้าของควรติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด ก่อนจะค่อย ๆ ลดบทบาทลงเมื่อธุรกิจเข้าที่

24WASH ร้านสะดวกซักอัตโนมัติ สร้างรายได้ Passive Income คือทางเลือกที่ใช่สำหรับคุณ

Passive Income คือการสร้างรายได้แบบไม่ต้องลงแรงทุกวัน และ 24WASH คือแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักที่ตอบโจทย์นี้อย่างลงตัว ด้วยเครื่องซักผ้าและอบผ้าคุณภาพสูงที่ให้บริการอย่างรวดเร็วและทนทาน ทำให้สามารถสร้าง Passive Income จากธุรกิจนี้ได้อย่างมั่นใจ ด้วยระบบบริการ One Stop Service ดูแลตั้งแต่ติดตั้งจนถึงการตลาด พร้อมแอปพลิเคชันที่ช่วยบริหารร้านผ่านมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ 24WASH เป็นธุรกิจแฟรนไชส์เสือนอนกินที่คุ้มค่าและน่าสนใจ

สรุป Passive Income คือทางเลือกเพื่ออิสรภาพทางการเงินในยุคเศรษฐกิจผันผวน

Passive Income คือรายได้ที่เกิดจากการลงทุนหรือลงแรง แล้วสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องทำงานทุกวัน ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบทั้งการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินและการลงทุนในธุรกิจ เพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินให้สามารถมีเวลาและอิสระในการใช้ชีวิต และสำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในการสร้าง Passive Income การลงทุนร้านสะดวกซัก 24WASH เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่ทำเงิน

ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องเฝ้าร้าน รอรับ Passive Income ง่าย ๆ ทุกวัน

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทาง ดังนี้

• FB: 24WASH x SpeedQueen
• Line: @24washlaundry
• Tel: 02-671-1555